A Development of Web-Based Instruction by Constructivism Theory on Photoelectric Effect Lesson for Grade 12 Students

Main Article Content

วิไลวรรณ งามสุนทรเลิศ
ทนงศักดิ์ โสวจัสสตากุล
ไพฑูรย์ พิมดี

Abstract

The objectives of this study were to develop a Web-Based Instruction by constructivism theory on Photoelectric Effect Lesson for grade 12 students, to compare learning achievement of the students before and after using the instruction and to examine satisfaction toward the instruction among the students. The samples of the study comprised 1 classroom, 49 people for grade 12 students in Science-Mathematics Program at Assumption College Sriracha in the academic year 2/2014, selected by Cluster Random Sampling method. The research instruments were a Web-Based Instruction with constructivism theory on Photoelectric Effect, an instruction quality assessment form, a learning achievement test on Basic Programming Language with Item Objective Congruence (IOC) = 0.67-1.00, Difficulty Index (p) = 0.22-0.78, Discrimination (r) = 0.25-0.69 and Reliability (KR 20) = 0.91, and a learning satisfactory questionnaire with IOC = 0.67-1.00 and Reliability = 0.93. The data were analyzed by using arithmetic mean (gif.latex?\bar{x} ), standard deviation (S) and Paired t-test for dependent samples.


The results showed that the content quality and media production quality of the Web-Based Instruction with constructivism theory on Photoelectric Effect were at a high level ( gif.latex?\bar{x} = 4.42 and S = 0.28) with the efficiency of 80.57/78.06. Learning achievement of the students was found to increase with significantly higher post-test scores when compared to the pre-test scores at 0.05. The students’ satisfaction toward the instruction was at an excellent level (gif.latex?\bar{x}  = 4.56 and S = 0.60).

Article Details

How to Cite
งามสุนทรเลิศ ว., โสวจัสสตากุล ท., & พิมดี ไ. (2015). A Development of Web-Based Instruction by Constructivism Theory on Photoelectric Effect Lesson for Grade 12 Students. Journal of Industrial Education, 14(3), 136–143. Retrieved from https://ph01.tci-thaijo.org/index.php/JIE/article/view/122376
Section
Research Articles

References

[1] สุกรี รอดโพธิ์ทอง และคณะ. 2544.ความรู้เกี่ยวกับสื่อมัลติมีเดียเพื่อการศึกษา. กรุงเทพฯ: คุรุสภาลาดพร้าว.

[2] ปรัชญนันท์ นิลสุข. 2555. เทคโนโลยีสารสนเทศ ทางการศึกษา. กรุงเทพฯ: ศูนย์ผลิตตำราเรียนมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้า พระนครเหนือ.

[3] 4Boyle, Tom. 1997. Design for Multimedia Learning. Here ford shire: Prentice Hall.

[4] ปกเกศ ชนะโยธา. 2551. การศึกษาผลสัมฤทธิ์ ทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ และความพึงพอใจ ของนักเรียนช่วงชั้นที่ 2 โดยใช้บท เรียนคอมพิวเตอร์มัลติมีเดียบนเครือ ข่ายอินเทอร์เน็ต ที่สร้างขึ้นตามทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์. ปริญญานิพนธ์การศึกษามหา บัณฑิต สาขาเทคโนโลยีการศึกษา บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.

[5] สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ. 2555. รายงานผลการทดสอบทางการศึกษาแห่ง ชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 6 เอกสารฉบับที่ 5. ชลบุรี: โรงเรียนอัสสัมชัญ ศรีราชา. (เอกสารอัดสำเนา).

[6] ถนอมพร (ตันพิพัฒน์) เลาหจรัสแสง. 2541. หลักการออกแบบและการสร้างคอมพิวเตอร์ ช่วยสอนด้วยโปรแกรม (Multimedia toolbook). กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่ง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

[7] สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. 2550. การจัดการเรียนรู้แบบสร้างองค์ความรู้. ค้นเมื่อวันที่ 7 มกราคม 2557, จาก https://nualphen22. blogspot.com/2010/06/blog-post.html

[8] ไพโรจน์ ตีรณธนากุล ไพบูลย์ เกียรติโกมล และ เสกสรรค์ แย้มพินิจ. 2546. การออกแบบและ การผลิตบทเรียนคอมพิวเตอร์การสอนสำหรับ e-learning. กรุงเทพฯ: ศูนย์สื่อเสริมกรุงเทพ.

[9] ชัยยงค์ พรหมวงศ์. 2537. ชุดการสอนระดับ ประถมศึกษาในเอกสารการสอนชุดวิชาสื่อ การสอนระดับประถมศึกษา. พิมพ์ครั้งที่ 13. นนทบุรี: โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.

[10] สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, กระทรวงศึกษาธิการ. 2538. คู่มือการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์. กรุงเทพฯ: สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงศึกษาธิการ.

[11] สรรรัชต์ ห่อไพศาล. 2544. นวัตกรรมและการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อการศึกษาในสหัสวรรษใหม่: กรณีการจัดการเรียนการสอนผ่านเว็บ. ศรีปทุมปริทัศน์, 1(2), น.93-104.

[12] นูรีซาน ดอเลาะ. 2551. ผลของการเรียนรู้จากบทเรียนบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตตามแนว ทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ เรื่องธาตุและสารประกอบในอุตสาหกรรม สำหรับนักเรียนโรงเรียน เอกชนสอนศาสนาอิสลาม. วิทยานิพนธ์ ปริญญาการศึกษา มหาบัณฑิต สาขาเทคโนโลยีและสื่อสารการศึกษา. บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี.

[13] เอกชัย ศิริเลิศพรรณนา ทนงศักดิ์ โสวจัสสตากุล และปริยาภรณ์ ตั้งคุณานันต์. 2556. การพัฒนาบทเรียนผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตเพื่อทบทวน เรื่อง การเคลื่อนที่แบบโมชั่นทวีน. วารสารครุศาสตร์อุตสาหกรรม, 11(1), น.38-46.

[14] อำไพ กำลังหาญ. 2545. การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาเคมีของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ระหว่างการสอนแบบ คอนสตรัคติวิสต์กับวิธีการสอนแบบปกติ. วิทยานิพนธ์ปริญญาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการศึกษาวิทยาศาสตร์ (เคมี) คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรม สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง.

[15] อุบลลักษณ์ ไชยชนะ. 2543. การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความพึงพอใจในการเรียนกับ ความสอดคล้องในการเลือกคณะของนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่. ปริญญานิพนธ์การ ศึกษามหาบัณฑิต สาขาจิตวิทยาการแนะแนว คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.

[16] Bloom, Benjamin S. 1976. Taxonomy of Education Objectives Handbook 1.New York: David Mc Kay Company Inc.

[17] อุมาวิชนีย์ อาจพรม. 2546. ผลการเรียนรู้จากห้องเรียนเสมือนวิชาวิทยาศาสตร์ ชั้น มัธยมศึกษา ปีที่ 3 ตามทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์. ปริญญานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต สาขาเทคโนโลยีการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.