ผลของโปรแกรมส่งเสริมสมรรถนะแห่งตนในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ต่อปริมาณน้ำนมแม่ที่พอเพียงและพฤติกรรมการปฏิบัติของมารดาเพื่อการคงอยู่ของนมแม่สำหรับทารกหลังได้รับการผ่าตัดช่องท้อง

Authors

  • นพรัตน์ ละครเขต คณะพยาบาลศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
  • วีณา จีระแพทย์ คณะพยาบาลศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

Keywords:

การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่, สมรรถนะแห่งตน, การคงอยู่ของน้ำนมแม่, ทารก, การผ่าตัดช่องท้อง, มารดาหลังคลอด, Breastfeeding, Self-efficacy, Maintenance of Lactation, Newborn, Explored Laparotomy, Postpartum Mother

Abstract

การวิจัยกึ่งทดลองมีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาผลของปริมาณน้ำนมแม่ที่พอเพียงและพฤติกรรมการปฏิบัติของมารดาเพื่อการคงอยู่ของนมแม่สำหรับทารกหลังได้รับการผ่าตัดช่องท้อง กลุ่มตัวอย่างคือมารดาหลังคลอดที่มีทารกได้รับการรักษาทางศัลยกรรมด้วยวิธีการผ่าตัดช่องท้อง แบ่งเป็นกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุมโดยการจับคู่ ความตั้งใจในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่และปัญหาสุขภาพของทารก กลุ่มละ 22 ราย กลุ่มควบคุมได้รับการพยาบาลตามปกติ กลุ่มทดลองได้รับโปรแกรมส่งเสริมสมรรถนะแห่งตนในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ เครื่องมือวิจัยได้แก่แผนการสอนโปรแกรมส่งเสริมสมรรถนะแห่งตนในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ แบบสอบถามข้อมูลส่วนบุคคล แบบประเมินสมรรถนะแห่งตนในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ แบบประเมินพฤติกรรมการปฏิบัติเพื่อการคงอยู่ของนมแม่และแบบบันทึกปริมาณน้ำนมแม่ ซึ่งผ่านการตรวจสอบความตรงตามเนื้อหา และตรวจสอบความเที่ยงของแบบประเมินสมรรถนะแห่งตนในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ แบบประเมินพฤติกรรมการปฏิบัติเพื่อการคงอยู่ ของนมแม่ มีค่าความเที่ยงเท่ากับ .85 และ .80 ตามลำดับ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนา และสถิติทดสอบค่าซี สถิติทดสอบค่าที่ผลการวิจัยพบว่า 1. ค่าเฉลี่ยของคะแนนพฤติกรรมการปฏิบัติเพื่อการคงอยู่ของนมแม่ของมารดาที่มีทารกได้รับการผ่าตัดช่องท้องกลุ่มที่ได้รับโปรแกรมส่งเสริมสมรรถนะแห่งตนในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่สูงกว่า กลุ่มควบคุมที่ได้รับการพยาบาลตามปกติอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2. จำนวนมารดาที่มีปริมาณน้ำนมแม่พอเพียงสำหรับทารกหลังได้รับการผ่าตัดช่องท้อง กลุ่มที่ได้รับโปรแกรมส่งเสริมสมรรถนะแห่งตนในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่มีจำนวนมากกว่ากลุ่มควบคุมที่ได้รับการพยาบาลตามปกติอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

The Effects of Promoting Breast Feeding Self-Efficacy Program on Sufficient of Breast Milk Supply And Maintenance of Lactation Behavior in Mothers of Newborn after Explore Laparotomy

This quasi - experimental research study was aimed to examine the effects of promoting breastfeeding self - efficacy program on the sufficiency of milk supply and the maintenance of lactation behavior in mothers of newborn after explored laparotomy. Subjects were postpartum mothers who had explored laparotomy babies. Subjects were assigned to the control and the experimental groups by matching mothers’ breastfeeding commitment and health problems of newborns. They were 22 subjects in each group. The control group received the routine nursing care, while the experimental group received the promoting breastfeeding self – efficacy program. Research instruments included the promoting breastfeeding self - efficacy program, personal questionnaire of mothers and newborns, breastfeeding self - efficacy questionnaire, maintenance of lactation
behavior questionnaire and breast milk volume record form. All instruments were tested for content validities. The questionnaire reliability of the breastfeeding self - efficacy and maintenance of lactation behavior were .85 and .80, respectively. Data were analyzed by descriptive statistics, Z- score, and independent t - test. Research findings were as follows: 1.The mean score of maintenance of lactation behavior in mothers who received self-efficacy program was higher than those who received routine nursing care at a significance level of .05. 2. The number of mothers who had sufficient milk supply in the group received self-efficacy program was higher than those who received routine nursing care at a significance level of .05.

Downloads

How to Cite

1.
ละครเขต น, จีระแพทย์ ว. ผลของโปรแกรมส่งเสริมสมรรถนะแห่งตนในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ต่อปริมาณน้ำนมแม่ที่พอเพียงและพฤติกรรมการปฏิบัติของมารดาเพื่อการคงอยู่ของนมแม่สำหรับทารกหลังได้รับการผ่าตัดช่องท้อง. J Royal Thai Army Nurses [Internet]. 2017 Oct. 19 [cited 2024 Mar. 28];18(suppl.2):211-20. Available from: https://he01.tci-thaijo.org/index.php/JRTAN/article/view/101682