การนำเสนอรูปแบบการจัดการเรียนรู้ทางศิลปวัฒนธรรม: กรณีศึกษา เส้นทางคลองด่าน บางขุนเทียน* A Proposed Model of Art and Cultural Learning Management: A Case Study of Khlong Dan Bangkhunthian

Authors

  • สุทธิดา มนทิรารักษ์
  • สมโภชน์ ทองแดง
  • โสมฉาย บุญญานันต์

Keywords:

การจัดการเรียนรู้, ศิลปวัฒนธรรม, คลองด่าน, บางขุนเทียน, LEARNING MANAGEMENT, ART AND CULTURAL, KHLONG DAN, BANGKHUNTHIAN

Abstract

       งานวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบันของแหล่งเรียนรู้ทางศิลปวัฒนธรรม เส้นทางคลองด่าน บางขุนเทียน  2) เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ทางศิลปวัฒนธรรม เส้นทางคลองด่าน บางขุนเทียน การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยเก็บข้อมูลจากการสังเกต และสืบค้นข้อมูลพื้นฐานของแหล่งเรียนรู้ในเส้นทางคลองด่าน บางขุนเทียน สัมภาษณ์ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนรู้จำนวน 30 คน และบุคคลในพื้นที่จำนวน 5 คน โดยมีเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ทางศิลปวัฒนธรรม  ได้แก่  แบบบันทึกแหล่งเรียนรู้ทางศิลปวัฒนธรรม แบบสัมภาษณ์ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนรู้ทางศิลปวัฒนธรรม และเครื่องมือสำหรับประเมินคุณภาพของรูปแบบ ได้แก่  แบบสังเกตพฤติกรรมผู้ร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ทางศิลปวัฒนธรรม  แบบสอบถามความพึงพอใจของผู้ร่วมกิจกรรมในการจัดการเรียนรู้ทางศิลปวัฒนธรรม  จากนั้นนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์เป็นรูปแบบการจัดการเรียนรู้ทางศิลปวัฒนธรรม: กรณีศึกษา เส้นทางคลองด่าน บางขุนเทียน ตรวจสอบรูปแบบโดยผู้ทรงคุณวุฒิ และทดลองจัดการเรียนรู้

       ผลการวิจัยพบว่า สภาพปัจจุบันของแหล่งเรียนรู้ทางศิลปวัฒนธรรม: กรณีศึกษา เส้นทางคลองด่าน บางขุนเทียนที่เหมาะสมในการจัดการเรียนรู้มีจำนวน 10 แหล่ง โดยมีรูปแบบในการจัดการเรียนรู้ทางศิลปวัฒนธรรม แบ่งเป็น 4  องค์ประกอบ  ได้แก่  1) ด้านวัตถุประสงค์ ต้องกำหนดให้ผู้ร่วมกิจกรรมเกิดความรู้ความเข้าใจทางศิลปวัฒนธรรมผ่านกิจกรรมการเรียนรู้ในเส้นทางคลองด่าน บางขุนเทียน และเห็นความสำคัญของการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม 2) ด้านแหล่งการเรียนรู้ทางศิลปวัฒนธรรม ต้องคัดสรรจากความสอดคล้องของเนื้อหาที่จะเรียนรู้ คำนึงถึงการเดินทางจากสถานที่หนึ่งไปยังอีกสถานที่หนึ่ง ต้องให้ความสำคัญกับความสะดวกในการเดินทาง และความสะอาดของสถานที่ 3) ด้านกิจกรรมการเรียนรู้ทางศิลปวัฒนธรรม  ต้องบรรยายให้ความรู้เบื้องต้นจากนั้นจึงนำเข้าสู่การชมสถานที่จริง  โดยมีขั้นตอนการจัดการเรียนรู้ทางศิลปวัฒนธรรมแบ่งเป็น 6  ขั้นตอน ดังนี้ 3.1) ขั้นเตรียมความพร้อมในการเรียนรู้ทางศิลปวัฒนธรรม 3.2) ขั้นออกเดินทางเรียนรู้ 3.3) ขั้นบันทึกข้อมูลการเรียนรู้ 3.4) ขั้นสรุปผลการเดินทาง 3.5) ขั้นแบ่งปันข้อค้นพบ และ 3.6) ขั้นประเมินความพึงพอใจในการเรียนรู้ทางศิลปวัฒนธรรม และ 4)  ด้านการประเมินผลการเรียนรู้ทางศิลปวัฒนธรรม ต้องประเมินสภาพจริงโดยการสังเกตพฤติกรรม และสอบถามความพึงพอใจในการจัดการเรียนรู้ทางศิลปวัฒนธรรมหลังการร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ สำหรับการทดลองใช้รูปแบบ พบว่า  ผลการวิเคราะห์ข้อมูลระหว่างการสังเกตพฤติกรรมของผู้ร่วมกิจกรรมโดยผู้วิจัย และการประเมินความพึงพอใจโดยผู้ร่วมกิจกรรมมีความสอดคล้องกัน  โดยผู้ร่วมกิจกรรมมีความสนใจในการเรียนรู้ และร่วมกันตรวจสอบข้อมูลเพื่อเรียนรู้เรื่องราวทางศิลปวัฒนธรรมอย่างถูกต้อง  พร้อมให้ความคิดเห็นว่าการเรียนรู้ในครั้งนี้ส่งผลให้ทราบถึงคุณค่าของศิลปวัฒนธรรมในเส้นทางคลองด่าน บางขุนเทียน เกิดความประทับใจในมรดกทางวัฒนธรรมที่ได้พบ และส่งเสริมให้เกิดการเห็นคุณค่าซึ่งจะพัฒนาไปเป็นการรวมพลังในการอนุรักษ์ต่อไป

       The purposes of the research were: 1) to study the current cultural resources in Khlong Dan Bangkhunthian, and 2) to improve the cultural learning format using the case study of Khlong Dan Bangkhunthian. The research was conducted using qualitative research method in the designated area of Khlong Dan Bangkhunthian. The purposive sample comprised 30 cultural experts, cultural studies professionals, cultural experienced participants and 5 locals. Cultural memorandum and a survey of the cultural participants were used as research instruments, along with the participant’s behavioural survey and the participant’s satisfaction survey as the module analysis. Then, the results were analyzed to test and create the cultural module for the case study of Khlong Dan Bangkhunthian, and reviewed by supervisors.

       The results from this study indicate that there were 10 current cultural locations in Khlong Dan Bangkhunthian suitable for educational purposes considering time and limited transportation. This module is divided into 4 components as follows:  1) Purposes: to gain better understanding of arts and culture through the Khlong Dan Route and to be aware of the importance of cultural preservation; 2) Cultural places: to select the right cultural context using an easily accessible route and consider the location’s cleanliness; 3) Activities: to introduce the venues before the visit. The procedures are classified into 6 stages as follows: 3.1 Preparation, 3.2 Exploration, 3.3 Documentation, 3.4 Conclusion, 3.5 Distribution, and 3.6 Evaluation. 4) Evaluation: to evaluate from the actual condition and the questionnaire on satisfaction after this module. The results of the participant’s behavioral survey and the participant’s satisfactory survey were correlated. The participants expressed their interest in the module, reviewed the factual information of the cultural resources, and commented that this module educated them on the value of the cultural resources in Khlong Dan Bangkhunthian and made them appreciate the importance of retaining and protecting the art and cultural resources.

Author Biographies

สุทธิดา มนทิรารักษ์

นิสิตมหาบัณฑิตสาขาวิชาศิลปศึกษา ภาควิชาศิลปะ ดนตรีและนาฏศิลป์ศึกษา คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

สมโภชน์ ทองแดง

อาจารย์ประจำสาขาวิชาศิลปศึกษา ภาควิชาศิลปะ ดนตรีและนาฏศิลป์ศึกษา คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

โสมฉาย บุญญานันต์

อาจารย์ประจำสาขาวิชาศิลปศึกษา ภาควิชาศิลปะ ดนตรีและนาฏศิลป์ศึกษา คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

Downloads

Published

2017-04-20

How to Cite

มนทิรารักษ์ ส., ทองแดง ส., & บุญญานันต์ โ. (2017). การนำเสนอรูปแบบการจัดการเรียนรู้ทางศิลปวัฒนธรรม: กรณีศึกษา เส้นทางคลองด่าน บางขุนเทียน* A Proposed Model of Art and Cultural Learning Management: A Case Study of Khlong Dan Bangkhunthian. An Online Journal of Education, 11(3), 189–218. Retrieved from https://so01.tci-thaijo.org/index.php/OJED/article/view/83918