การศึกษาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความผูกพันต่อองค์การของข้าราชการ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (สำนักงาน ก.ค.ศ.)

Main Article Content

บุญชัย กลัดทอง

Abstract

บทคัดย่อ

               การศึกษาวิจัย ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์คือ 1) เพื่อศึกษาระดับความผูกพันต่อองค์การของข้าราชการ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (สำนักงาน ก.ค.ศ.)  2) เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความผูกพันต่อองค์การของข้าราชการ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (สำนักงาน ก.ค.ศ.)  3) เพื่อเป็นข้อเสนอแนะแนวทางในการเสริมสร้างความผูกพันต่อองค์การของข้าราชการ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (สำนักงาน ก.ค.ศ.) ในการศึกษาได้ดำเนินการโดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) โดยใช้แบบสอบถาม (Questionnaire) เป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล กลุ่มตัวอย่าง คือ ข้าราชการทั้งหมดที่ปฏิบัติงานในสำนักงาน ก.ค.ศ. จำนวน 224 คน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าความถี่ (Frequency) ค่าร้อยละ (Percentage) สำหรับการทดสอบสมมติฐานการวิจัยเพื่อหาความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรด้วยการหาค่าไคสแควร์ (Chi – Square Test) และหาทิศทางความสัมพันธ์จากการหาค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบ Gamma ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติที่ .05

               ผลการศึกษาวิจัยสรุปคือ 1) ระดับความผูกพันต่อองค์การของข้าราชการ สำนักงาน ก.ค.ศ.
ในภาพรวมทั้ง 3 ด้าน คือ ด้านความภาคภูมิใจและรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งขององค์การ ด้านความจงรักภักดีต่อองค์การ และด้านความตั้งใจและพร้อมที่จะใช้ความสามารถที่มีอยู่ทำงานเพื่อองค์การ อยู่ในระดับเห็นด้วยมาก  2) ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์กับความผูกพันต่อองค์การของข้าราชการ สำนักงาน ก.ค.ศ. อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (P<0.05) ได้แก่ ลักษณะงานที่ปฏิบัติ นโยบายและการบริหารงาน รายได้และสวัสดิการ การบังคับบัญชา ความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงาน 3) ข้อเสนอแนะแนวทางในการเสริมสร้างความผูกพันต่อองค์การของข้าราชการ สำนักงาน ก.ค.ศ. ได้แก่

               1.  หน่วยงานควรจัดกิจกรรมในการส่งเสริมให้ข้าราชการเกิดความผูกพันต่อองค์การ โดยการจัดให้มีระบบพี่เลี้ยง (Mentoring) เพื่อสอนงาน

               2.  หน่วยงานควรส่งเสริมให้ข้าราชการมีโอกาสศึกษาเพิ่มเติมโดยสนับสนุนในด้านทุนการศึกษา หรืออนุญาตให้ลาศึกษาต่อ เป็นต้น

               3.  หน่วยงานควรจัดทำคู่มือ “ขั้นตอนและวิธีการทำงาน” และ คู่มือ “คำถาม-คำตอบ” เกี่ยวกับปัญหาการทำงานเพื่อใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติงาน 

4.             หน่วยงานควรเปิดโอกาสให้ข้าราชการนำความรู้ความสามารถมาใช้อย่างเต็มที่ โดยการเพิ่มบทบาทและความรับผิดชอบงานที่มีขอบข่ายกว้างขวางและมีความสำคัญต่อองค์การ

               5.  หน่วยงานควรกำหนดทิศทางการทำงานที่ชัดเจน ให้ครอบคลุมในเรื่องวิสัยทัศน์ ค่านิยม เป้าประสงค์หรือผลการดำเนินการที่องค์การคาดหวัง รวมทั้งมีการสื่อสารเพื่อถ่ายทอดทิศทางดังกล่าวสู่ข้าราชการ เพื่อให้เกิดการรับรู้ ความเข้าใจ และการนำไปปฏิบัติได้อย่างชัดเจน

               6.  หน่วยงานควรจะพิจารณาการจัดสวัสดิการที่จำเป็นอื่น ๆ เช่น ทำความตกลงร่วม (MOU) กับสถาบันการเงินต่าง ๆ ในการจัดตั้งกองทุนกู้ยืมฉุกเฉินให้ข้าราชการ รวมทั้ง การจัดสวัสดิการที่พักภายในคุรุสภา ที่ตั้งอยู่บริเวณกระทรวงศึกษาธิการ

               7.  หน่วยงานควรมีการส่งเสริมความเข้าใจระหว่างผู้บังคับบัญชาและผู้ใต้บังคับบัญชา โดยการทำกิจกรรมร่วมกัน เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและลดช่องว่างและมุมมองระหว่างกัน โดยจัดทำเป็นจุลสาร “เพื่อน” จัดทำเว็บบอร์ด (web board) แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในระบบ Intranet รวมทั้งการจัดกิจกรรมเพื่อการผ่อนคลายและสันทนการ “Stop day” ทุกวันพุธ เป็นต้น

 

Abstract

               This study has aims to study level of staff commitment in work of Office of Teachers and Educational personnel Committee, to study factor related to staff commitment and to propose guidelines to strengthen staff commitment.  Sampling group in the study was Personnel of Office of Teachers and Educational personnel Committee for 224 persons, used a set of questionnaire as a tool to collect date.  Statistics used in quantitative analysis  were frequency, percentage and comparing staff commitment level by hypothesis testing with Chi-square test and measure the relationship between variables with Gamma at significant level of 0.05.

               The findings are : staff commitment level in work of personnel at Civil Service Commission were at high level.  Factors related to the staff commitment with significant level of 0.05 were age ,educational ,level duration of work ,nature of work , policy and administration, income and benefits, supervision and relationship among colleagues.

            Recommendations from the study are : organization should set up activities to promote more staff commitment such as mentoring system so officials perform work according to vision and mission of the organization.  Organization should promote further education in official by offering scholarship or educational leave . To motivate new and young officials in continuing working by doing standard procedure manual and questions and answer in working to use as a guideline in work.  Organization should be open for new knowledge or process to enhance officials to put full efforts in their work by assigning  more responsibility which is broad and important to the organization.  Organization should have clear work direction cover the vision value and objectives of the organization and announce to the officials so they realize the clear organization policy. Publishing “Message from the Secretary” for management to communicate with personnel. Organization should provide benefits such as MOU with financial institution for quick loan, accommodation. Organization should have activities which promote mutual understanding between management and personnel to exchange ideas and comments and close the gap of communication. Organization should set up a internal communication such as friend magazine to communicate among officials.  Organization should create a web board to exchange ideas or “Stop Day” activity on Wednesday for relaxation.

Article Details

Section
บทความ : มนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ และศิลปะ