การพัฒนาทักษะการคิดแก้ปัญหา เรื่อง กฎหมายน่ารู้ ด้วยการจัดการเรียนรู้แบบกรณีศึกษา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4

Abstract

            การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ก่อนและหลังเรียน เรื่อง กฎหมายน่ารู้ ด้วยการจัดการเรียนรู้แบบกรณีศึกษา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 2) เปรียบเทียบทักษะการคิดแก้ปัญหาก่อนและหลังเรียน ด้วยการจัดการเรียนรู้แบบกรณีศึกษา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 3) ศึกษาคุณลักษณะใฝ่เรียนรู้ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ด้วยการจัดการเรียนรู้แบบกรณีศึกษา และ4) ศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนของชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้แบบกรณีศึกษา  กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยคือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 จำนวน 43 คน โรงเรียนทวีธาภิเศก สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต1 กรุงเทพมหานคร เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้ 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง กฎหมายน่ารู้ 3) แบบประเมินทักษะการคิดแก้ปัญหา 4) แบบสังเกตคุณลักษณะใฝ่เรียนรู้ และ5) แบบสอบถามความคิดเห็นของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้แบบกรณีศึกษา สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย  ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และการทดสอบค่าทีแบบไม่เป็นอิสระต่อกัน (t-test for dependent) และการวิเคราะห์เนื้อหา (content Analysis)

               ผลการวิจัยพบว่า

                    1. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง กฎหมายน่ารู้ ด้วยการจัดการเรียนรู้แบบกรณีศึกษา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

                    2. ทักษะการคิดแก้ปัญหา เรื่อง กฎหมายน่ารู้ ด้วยการจัดการเรียนรู้แบบกรณีศึกษา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ .05  

                    3. คุณลักษณะใฝ่เรียนรู้ ด้วยการจัดการเรียนรู้แบบกรณีศึกษา ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 หลังเรียน โดยภาพรวม อยู่ในระดับสูง

                    4. ความคิดเห็นของนักเรียนของชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้แบบกรณีศึกษา โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก

             The purposes of this research were to: 1) compare the learning achievement on useful laws of Mathayomsuksa 4 students before and after using case-based learning 2) compare the problem solving abilities of Mathayomsuksa 4 students before and after using case-based learning 3) study the abilities for learning desired characteristics of Mathayomsuksa 4 students after using case-based learning and 4) study the opinions of Mathayomsuksa 4/1 students on case-based learning. The sample of this research consisted of 43 Mathayomsuksa 4/1 students in the second semester of the 2016 at academic year at Taweethapisek School under the office of the Secondary Education Service Area Bangkok. The instruments used in the study were: 1) lesson plans 2) an achievement test on useful laws test 3) a problem solving skills test 4) an observation for desired characteristics and 5) a questionnaire for the opinions of the Mathayomsuksa 4 students on case-based learning. The collected data were analyzed by mean ( ) standard deviation (S.D.) t-test for dependent and content analysis.

             The findings were as follows :

                 1. After using case-based Learning the learning achievement of the Mathayomsuksa 4 students on useful laws was higher than before with statistical significant at .05.

                 2. The problem solving skills gained by the Mathayomsuksa 4 students after using case-based learning was higher than before with statistical significance at .05.     

                 3. After using case-based learning the desired characteristics of the Mathayomsuksa 4 students on case-based learning was high overall.

                 4. The positive opinion of the Mathayomsuksa 4 students on case-based learning was high overall.