ผลของการออกกำลังกายแบบแอโรบิคกับเก้าอี้ต่อระดับฮีโมโกลบินเอวันซี ในผู้ที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 2
Keywords:
การออกกำลังกายแบบแอโรบิคกับเก้าอี้, ระดับฮีโมโกลบินเอวันซี, ผู้ที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 2, การออกกำลังกายตามปกติAbstract
วิธีการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดผู้ที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 ได้แก่ การควบคุมอาหาร การใช้ยาลดน้ำตาล และการออกกำลังกาย แต่ผู้ที่เป็นเบาหวานมักไม่ค่อยออกกำลังกายเนื่องจากกลัวการเกิดอุบัติเหตุ การออกกำลังกายแบบแอโรบิคกับเก้าอี้จึงอาจเป็นทางเลือกหนึ่งในการออกกำลังกายสำหรับผู้ที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 การวิจัยแบบกึ่งทดลองครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของการออกกำลังกายแบบแอโรบิคกับเก้าอี้ต่อระดับฮีโมโกลบินเอวันซีในผู้ที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 2กลุ่มตัวอย่างคือผู้ที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 ที่มารับการรักษาที่คลินิกเบาหวานโรงพยาบาลวิเศษชัยชาญ และโรงพยาบาลโพธิ์ทอง จ.อ่างทอง ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ถึง เดือนธันวาคม พ.ศ.2555 และทำการจับฉลากเข้าเป็นกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุมจำนวนกลุ่มละ 17 ราย โดยกลุ่มควบคุมจะมีการออกกำลังกายตามคำแนะนำจากพยาบาลประจำคลินิกเบาหวาน ในขณะที่กลุ่ม ทดลองมีการออกกำลังกายแบบแอโรบิคกับเก้าอี้เป็นเวลา 12 สัปดาห์ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ วีดีทัศน์การออกกำลังกายแบบแอโรบิคกับเก้าอี้ แบบบันทึกการออกกำลังกาย แบบสอบถามข้อมูล ส่วนบุคคลและแบบบันทึกค่าระดับฮีโมโกลบินเอวันซี วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา และ สถิติทดสอบที
ผลการวิจัยพบว่า
ระดับฮีโมโกลบินเอวันซีของผู้ที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 ที่มีการออกกำลังกายแบบแอโรบิคกับเก้าอี้ต่ำกว่าของกลุ่มที่ได้รับคำแนะนำตามปกติจากพยาบาลที่คลินิกเบาหวานอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<.01) ระดับฮีโมโกลบินเอวันซีหลังการออกกำลังกายแบบแอโรบิคกับเก้าอี้ต่ำกว่าก่อนการออกกำลังกายอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<.05)
ผลการวิจัยครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า การออกกำลังกายแบบแอโรบิคกับเก้าอี้สามารถลดระดับฮีโมโกลบินเอวันซีในผู้ที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 2 ได้ จึงเสนอแนะให้เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการออกกำลังกายร่วมกับการควบคุมอาหารและการใช้ยาลดน้ำตาล เพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดสำหรับประชากรกลุ่มดังกล่าวDownloads
Published
How to Cite
Issue
Section
License
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของวารสารพยาบาลสาร
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และคณาจารย์ท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใด ๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว