การวิเคราะห์รูปแบบการเรียนรู้เชิงประสบการณ์ของปฏาจาราเถรี ในคัมภีร์พระพุทธศาสนาเถรวาท
Main Article Content
Abstract
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์รูปแบบการเรียนรู้เชิงประสบการณ์ของปฏาจาราเถรีในคัมภีร์พระพุทธศาสนานิกายเถรวาท เป็นการวิจัยเชิงเอกสาร
ผลการวิจัยพบว่า รูปแบบการเรียนรู้เชิงประสบการณ์ของปฏาจาราเถรีมี ๓ มิติ กล่าวคือ มิติแห่งประโยชน์ มิติการเรียนรู้แบบพุทธ และมิติตะวันตกของ David A. Kolb
มิติแห่งประโยชน์ ประกอบด้วยการบำเพ็ญประโยชน์ส่วนตนเรียก อัตตัตถประโยชน์ และการสร้างประโยชน์เพื่อส่วนรวมเรียก ปรหิตประโยชน์
มิติการเรียนรู้แบบพุทธประกอบด้วยองค์คุณที่สำคัญได้แก่ ปรโตโฆสะ จุดเริ่มต้นแห่งการเรียนรู้ของมนุษย์ และโยนิโสมนสิการ การเรียนรู้ที่เกิดขึ้นภายในตัวมนุษย์หลังมีประสบการณ์
มิติตะวันตกของ David A. Kolb มีการเรียนรู้ ๔ ขั้นตอน ได้แก่ การมีประสบการณ์ การสะท้อนคิด การสร้างความคิดรวบยอด และการประยุกต์ใช้ในสถานการณ์ใหม่การเรียนรู้จะเริ่มที่ขั้นตอนใดก็ได้แต่ต้องดำเนินไปครบทุกขั้นตอน
องค์ประกอบการเรียนรู้ของปฏาจาราเถรี ประกอบด้วย การมีประสบการณ์ในอดีตชาติ และปัจจุบันชาติ การสะท้อนคิด ฟังพระธรรมเทศนา เข้าใจความจริง เกิดความคิดรวบยอด การบำเพ็ญวิปัสสนาญาณ และการประยุกต์ใช้ เห็นแจ้งไตรลักษณ์ บรรลุอรหันต์ เป็นพระวินัยธรฝ่ายภิกษุณีและปวัตตินี
การเรียนรู้เชิงประสบการณ์ของปฏาจาราเถรีเป็นรากฐานการนำประสบการณ์ (ความทุกข์) มาใช้ประโยชน์ในกระบวนการเรียนรู้แบบพุทธ มองความทุกข์ในฐานะเป็นองค์คุณที่ทรงคุณค่าสำหรับการพัฒนาศักยภาพ
Keywords
Downloads
Article Details

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายลิขสิทธิ์ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องลงลายมือชื่อในแบบฟอร์มใบมอบลิขสิทธิ์บทความ ให้แก่วารสารฯ พร้อมกับบทความต้นฉบับที่ได้แก้ไขครั้งสุดท้าย นอกจากนี้ ผู้นิพนธ์ทุกท่านต้องยืนยันว่าบทความ ต้นฉบับที่ส่งมาตีพิมพ์นั้น ได้ส่งมาตีพิมพ์เฉพาะในวารสาร วิชาการธรรม ทรรศน์ เพียงแห่งเดียวเท่านั้น หากมีการใช้ ภาพหรือตารางของผู้นิพนธ์อื่นที่ปรากฏในสิ่งตีพิมพ์อื่นมาแล้ว ผู้นิพนธ์ต้องขออนุญาตเจ้าของลิขสิทธิ์ก่อน พร้อมทั้ง แสดงหนังสือที่ได้รับการยินยอมต่อบรรณาธิการ ก่อนที่บทความจะได้รับการตีพิมพ์