การพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมเพื่อยกระดับทักษะภาษาอังกฤษ ตามกรอบอ้างอิงทางภาษาของสหภาพยุโรปของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

Main Article Content

ณดา บิลดาวูด

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาหลักสูตรฝึกอบรมเพื่อยกระดับทักษะภาษาอังกฤษตามกรอบอ้างอิงทางภาษาของสหภาพยุโรป ของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่  6  โดยมีขั้นตอนการดำเนินการศึกษาดังนี้  1)  การศึกษาข้อมูลพื้นฐานด้านการพัฒนาตนเองด้านทักษะภาษาอังกฤษ  2)  การสร้างและตรวจสอบคุณภาพหลักสูตร  และ  3)  การใช้และประเมินผลหลักสูตร  เพื่อเปรียบเทียบทักษะภาษาอังกฤษ  ก่อนและหลังการฝึกอบรม  กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้  ได้แก่  นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่  6  ภาคเรียนที่  1  ปีการศึกษา  2558 ของโรงเรียนบ้านย่านตาขาว  อำเภอย่านตาขาว  จังหวัดตรัง   จำนวน  30  คน  ได้มาโดยนักเรียนที่มีความสนใจหรือสมัครใจในการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ  เครื่องมือที่ใช้  ประกอบด้วย  หลักสูตรฝึกอบรม  แบบสอบถาม  แบบสัมภาษณ์  และแบบประเมินทักษะภาษาอังกฤษทั้ง  ฟัง  พูด  อ่าน  และเขียน  การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าคะแนนเฉลี่ย  ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน  และค่าที  ผลการวิจัยพบว่า

1.  ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานด้านการพัฒนาตนเองด้านทักษะภาษาอังกฤษ  เพื่อยกระดับทักษะภาษาอังกฤษ  ตามกรอบอ้างอิงทางภาษาของสหภาพยุโรป  ของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่  6  พบว่านักเรียนมีความสามารถในการใช้ทักษะภาษาอังกฤษยู่ในระดับพอใช้  สามารถสื่อสารได้ตามความสามารถของระดับชั้น ขาดการฝึกฝนทักษะและขาดความรู้เรื่องคำศัพท์  ไม่กล้าแสดงออก  นำทักษะภาษาอังกฤษไปใช้ในชีวิตประจำวัน  อยู่ในระดับน้อย  นำความรู้ไปใช้ในชีวิตจริงไม่ถูกต้อง  ขาดการสนับสนุนจากทางโรงเรียนและทางบ้าน  และขาดความแม่นยำในการนำทักษะภาษาอังกฤษไปใช้  และนักเรียนมีความต้องการในการพัฒนาตนเองด้านทักษะภาษาอังกฤษอยู่ในระดับมาก

2.  ผลการสร้างและตรวจสอบคุณภาพหลักสูตร 

     ประกอบด้วย  แผนการฝึกอบรม  วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าดัชนีความสอดคล้อง  (IOC)  ค่าเฉลี่ย  และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน  และแบบประเมินทักษะการฟัง  แบบประเมินทักษะการพูด  แบบประเมินทักษะการอ่าน  และแบบประเมินทักษะการเขียน

3.  ผลการนำหลักสูตรไปใช้ 

ผลการเปรียบเทียบคะแนนเฉลี่ยก่อนฝึกอบรมและหลังฝึกอบรมทักษะภาษาอังกฤษ   ตามกรอบอ้างอิงทางภาษาของสหภาพยุโรป  ทุกทักษะหลังฝึกอบรมสูงกว่าก่อนฝึกอบรมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ  .05

Article Details

บท
บทความวิจัย