Strategies for the development of Thai rubber exported industry toward competition in the international markets

Abstract

Rubber industry is a major export product of Thailand. The rubber products are mainly exported to high growth industrial countries like the U.S., China, Japan and the European Union. The major producers and exporters of natural rubber are Thailand, Malaysia, Indonesia and Vietnam. As for the assessment of the competitive environment, Thailand has the highest level of competitiveness in smoked rubber and latex. Thai rubber business has been promoted by government agencies to develop strategies in order to meet the globalization. However, it still lacks of information to reap benefits from ASEAN Economic Community (AEC) and free trade agreements that are going to happen in the year 2015. The purpose of this study is to generate contemporary information to use as a policy planning in both the production and the development of the rubber industry to enhance competitiveness and to support the implementation of the development strategy of the rubber export industry for comprehensive and concrete outcomes.

กลยุทธ์การพัฒนาอุตสาหกรรมส่งออกยางพาราไทย เพื่อการแข่งขันในตลาดระหว่างประเทศ 

อุตสาหกรรมยางพารานับเป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญของประเทศไทย โดยยางพาราส่วนใหญ่จะถูกส่งออกไปยังประเทศที่มีความเจริญทางอุตสาหกรรมเช่น สหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่นและสหภาพยุโรป เป็นต้น ประเทศผู้ผลิตและส่งออกยางพาราที่สำคัญได้แก่ ไทย มาเลเซีย อินโดนีเซียและเวียดนาม ซึ่งจากการประเมินสภาพการแข่งขันพบว่า ประเทศไทยมีความสามารถในการแข่งขันในยางธรรมชาติประเภทยางแผ่นรมควันและน้ำยางธรรมชาติในประเทศคู่ค้าที่สำคัญ อย่างไรก็ตาม หน่วยงานรัฐได้มีการส่งเสริมโดยจัดทำยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมยางพาราไทยเพื่อสอดคล้องกับโลกาภิวัตน์ทางธุรกิจ หากการแต่ยังขาดข้อมูลที่สำคัญในการส่งเสริมด้านการส่งออกเพื่อเร่งใช้ประโยชน์ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนและความตกลงการค้าเสรีที่กำลังจะเกิดขึ้นในปี 2558 บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ได้ข้อมูลที่เป็นปัจจุบันไปใช้เป็นข้อมูลประกอบการวางแผนเชิงนโยบายทั้งในด้านการผลิต การพัฒนาระบบตลาดและอุตสาหกรรมยาง เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน ตลอดจนสามารถสนับสนุนการดำเนินการตามยุทธศาสตร์การพัฒนายางพาราของประเทศไทยได้ อย่างครบวงจรและเกิดผลเป็นรูปธรรม