เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน เพื่อส่งบทความ

ในขั้นตอนการส่งบทความ ผู้แต่งต้องตรวจสอบและปฏิบัติตามข้อกำหนดรายการตรวจสอบการส่งทุกข้อ ดังต่อไปนี้ และบทความอาจถูกส่งคืนให้กับผู้แต่งกรณีที่ไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดทั้งหมด

  • 1. บทความจะต้องไม่เคยได้รับการตีพิมพ์ที่อื่นๆ มาก่อน และจะต้องไม่อยู่ในระหว่างขั้นตอนการพิจารณาตีพิมพ์ในวารสารอื่นๆ
  • 2. บทความและไฟล์ประกอบของบทความที่ส่งมาพิจารณาจะต้องมีการเตรียมรูปแบบและการจัดหน้าตาม ตัวอย่าง ของวารสาร
  • 3. บทความที่ส่งมาพิจารณาต้องเขียนด้วยภาษาไทย หรือภาษาอังกฤษและอยู่ในรูปแบบไฟล์ Microsoft Word for Windows และ pdf.
  • 4. บทความที่ส่งมาพิจารณาต้องมีการอ้างอิงเอกสารที่เกี่ยวข้องอย่างเพียงพอและเหมาะสมต่อเนื้อหาของบทความ

วารสารวิชาการพระจอมเกล้าพระนครเหนือ เป็นวารสารที่เผยแพร่ผลงานทางวิชาการ ทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มีการประเมินบทความโดยผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาวิชานั้นหรือสาขาวิชาที่เกี่ยวข้องอย่างน้อย 3 คน ซึ่งทั้งผู้นิพนธ์ (Author) และผู้ประเมิน (Reviewer) จะไม่ทราบข้อมูลรายชื่อของกันและกัน (Double-blind review) บทความที่ตอบรับการตีพิมพ์จะต้องเป็นงานวิจัยที่มีคุณภาพและมีมาตรฐานทางด้านจริยธรรม ผู้อ่านทุกคนสามารถเข้าถึงเนื้อหาทั้งหมดโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ทุกบทความจะได้รับการประเมินในด้านความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ปราศจากการคัดลอกผลงาน (Plagiarism) สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของวารสาร ความชัดเจนของการนำเสนอและการจัดระเบียบบทความ ความถูกต้องทางวิชาการ และความแปลกใหม่ของงาน

คำแนะในการเตรียมต้นฉบับบทความ

ตัวอย่างรูปแบบการอ้างอิงในวารสาร

Download the template.

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

Online Submissions

สามารถส่งบทความได้ที่ลิงก์ https://ph01.tci-thaijo.org/index.php/kmutnb-journal/index

ขั้นตอนการสมัครสมาชิกและส่งบทความในระบบ Thaijo

คู่มือการใช้งานระบบ Thaijo

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

การจัดเก็บค่าดำเนินการจัดพิมพ์เผยแพร่บทความในวารสารวิชาการพระจอมเกล้าพระนครเหนือ จัดเก็บเมื่อบทความได้รับการอนุมัติตีพิมพ์แล้วเท่านั้น รายละเอียดดังนี้

1. ผู้นิพนธ์ประสานงาน ที่เป็นบุคคลภายนอกมหาวิทยาลัยจำนวนเงินไม่เกิน 4,000 บาท ต่อหนึ่งบทความ
2. ผู้นิพนธ์ประสานงาน ที่เป็นนักศึกษาบัณฑิตศึกษาของมหาวิทยาลัยจำนวนเงินไม่เกิน 3,000 บาท ต่อหนึ่งบทความ

ประกาศมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ เรื่อง การเก็บเงินค่าดำเนินการจัดพิมพ์เผยแพร่บทความวิจัย

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

คำแนะนำในการเตรียมต้นฉบับบทความ (Download the template)

1. การเรียงลำดับเนื้อหาบทความ
1.1 ชื่อเรื่อง (Title) ภาษาไทยและภาษาอังกฤษควรสั้นกะทัดรัด และสื่อความหมายของเรื่องที่ทำอย่างชัดเจน
1.2 ชื่อ นามสกุลของผู้เขียน ใส่ทุกคน เป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ระบุสถานที่ทำงาน และที่อยู่สำหรับผู้นิพนธ์ประสานงาน (Corresponding Author) ให้ระบุหมายเลขโทรศัพท์และไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-mail)
1.3 บทค้ดย่อ (Abstract) ภาษาไทยและภาษาอังกฤษเป็นเนื้อความสรุปสาระสำคัญของเรื่อง วัตถุประสงค์ วิธีการศึกษา ผลการทดลองที่สำคัญ และผลสรุป มีความยาวไม่เกิน 250 คำ มี 1 ย่อหน้า และไม่มีการใส่เอกสารอ้างอิงในบทคัดย่อ
1.4 คำสำคัญ (Keyword) ภาษาไทยและภาษาอังกฤษอย่างละ 3-5 คำไว้ท้ายบทคัดย่อแต่ละภาษา ควรเป็นคำที่ไม่ซ้ำกับชื่อเรื่อง
1.5 เนื้อหา (Text) บทความวิจัยควรประกอบด้วย
  • บทนำ (Introduction) บอกความสำคัญหรือที่มาของปัญหาที่นำไปสู่การศึกษา พร้อมกับหลักการและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง (Literature Study) และในย่อหน้าสุดท้ายต้องมีการอธิบายจุดประสงค์ของบทความ 
  • วัสดุ อุปกรณ์เละวิธีการวิจัย (Materials and Methods) กล่าวถึงรายละเอียด การวิเคราะห์และทดลองที่ชัดเจนและมีรายละเอียด มากเพียงพอที่จะให้ผู้อ่านสามารถข้าใจการทดลอง ควรมีการบรรยาย วิเคราะห์สถิติหากมีผลการทดลองที่เกี่ยวข้อง และมีการระบุจำนวนครั้ง การทดลองและจำนวนตัวอย่างที่ใช้
  • ผลการทดลองและอภิปรายผล (Result and Discussion) บอกผลที่พบอย่างชัดเจนสมบูรณ์ และมีรายละเอียดครบถ้วนเป็นการประเมินการตีความ การวิเคราะห์ในแง่มุมต่างๆ ของผลที่ได้ว่าเป็นไปตามวัตถุประสงค์หรือไม่ มีความสอดคล้องหรือขัดแย้งกับผลงานของผู้อื่นอย่างไร ต้องมีการอ้างหลักการหรือทฤษฎีมาสนับสนุนหรือหักล้างอย่างเป็นเหตุเป็นผลและมีการเปรียบเทียบอ้างอิงกับงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
  • สรุป (Conclusions) ควรเขียนเป็นย่อหน้าประมาณ 1-2 ย่อหน้า โดยเป็นเนื้อหาที่ไม่ซ้ำกับบทคัดย่อและอาจมีข้อเสนอแนะที่จะนำผลวิจัยไปใช้ประโยชน์
1.6 กิตติกรรมประกาศ (ถ้ามี) ระบุว่าได้รับการสนับสนุนทุนวิจัยและความช่วยเหลือจากที่ใดบ้าง
1.7 เอกสารอ้างอิง (References) การอ้างอิงในบทความ ใช้การอ้างอิงแบบตัวเลข เอกสารอ้างอิงท้ายบทความทุกฉบับจะต้องมีการอ้างอิงในบทความ มีการอ้างอิงที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ เขียนเป็นภาษาอังกฤษ ตามรูปแบบของ IEEE รายละเอียดของเอกสารอ้างอิง ประกอบด้วย ชื่อผู้เขียน ชื่อหนังสือหรือชื่อของบทความ ชื่อของเอกสารที่พิมพ์ สำนัก หรือสถานที่พิมพ์ ปีที่ (ฉบับที่) พิมพ์ และเลขหน้าที่อ้างอิงทั้งนี้ การเขียนให้เป็นไปตามรูปแบบของชนิดเอกสารที่อ้างอิง
1.8 ภาคผนวก (ถ้ามี)
1.9 ตารางและรูป ต้องมีความคมชัดและให้แทรกไว้ในบทความ มีคำอธิบายสั้นๆ แต่สื่อความหมายได้สาระครบถ้วนและเข้าใจ กรณีที่เป็นตาราง ใช้คำว่า "ตารางที่..." และมีคำอธิบายใส่ไว้เหนือตาราง กรณีที่เป็นรูปให้ระบุลำดับที่ของรูปใช้คำว่า "รูปที่..." และมีคำอธิบายใส่ไว้ใต้รูป คำบรรยายตารางและรูปควรมีคำอธิบายที่เพียงพอให้เข้าใจความหมาย และต้องมีการแทรกคำว่า "ตารางที่..." หรือ "รูปที่..." ไว้ในเนื้อหาบทความด้วย
 
2. คำแนะนำในการเขียนและพิมพ์
2.1 คำแนะนำทั่วไป บทความต้องมีความยาวไม่เกิน 10-12 หน้ากระดาษ A4 พิมพ์ด้วย Microsoft Word for Windows การตั้งค่าหน้ากระดาษ ขอบด้านบนและด้านล่าง 3 ซม. ด้านซ้ายและ ด้านขวา 2.5 ซม. พิมพ์ 2 คอลัมน์ กว้าง 7.5 ซม. ระยะห่าง 1 ซม. การลำดับหัวข้อของเนื้อเรื่องให้ใช้เลขกำกับ บทนำเป็นหัวข้อหมายเลข 1 และหากมีหัวข้อย่อยให้ใช้เลขระบบทศนิยมกำกับหัวข้อย่อย เช่น
2.1 เป็นต้น และสามารถดาวน์โหลดรายละเอียดได้ที่ http://www.journal.kmutnb.ac.th
2.2 แบบและขนาดตัวอักษรใช้ตัวอักษรแบบ "TH Sarabun New" ชื่อบทความใช้ตัวอักษรขนาด 18 ตัวหนา ชื่อผู้เขียน บทคัดย่อและเนื้อความต่างๆ ใช้ตัวอักษรขนาด 14 ตัวปกติ ชื่อหัวข้อและหัวข้อย่อยใช้ตัวอักษรขนาด 14 ตัวหนา
 
3. เกณฑ์การพิจารณาบทความ 
มีดังนี้ ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ คุณค่าทางวิชาการ ความสมบูรณ์ของเนื้อหาและโครงสร้าง ภาษาที่ใช้ ความชัดเจนของสมมติฐาน/วัตถุประสงค์ ความชัดเจนของการนำเสนอและการจัดระเบียบบทความ ความถูกต้องทางวิชาการ การอภิปรายผล และการอ้างอิงที่ถูกต้องตามหลักวิชาการทุกบทความจะถูกคัดกรองการคัดลอกผลงานด้วยโปรแกรมและทุกบทความจะต้องได้รับการประเมินโดยผู้ทรงคุณวุฒิภายนอกอย่างน้อย 3 คน ในรูปแบบ Double Blind Review ซึ่งกองบรรณาธิการอาจให้ผู้เขียนปรับปรุงให้เหมาะสมยิ่งขึ้นและทรงไว้ซึ่งสิทธิ์ในการตัดสินลงพิมพ์หรือไม่ก็ได้
 
4. การอ้างอิงบทความในวารสาร
ชื่อ นามสกุล และ ชื่อ นามสกุล "ชื่อบทความ," วารสารวิชาการพระจอมเกล้าพระนครเหนือ, ปีที่ XX, ฉบับที่ X, หน้าที่ X-XX, เลขที่บทความ XX (ค.ศ. 2023) X (ฉบับที่)-XX (ลำดับบทความในฉบับที่ตีพิมพ์) XXXX (เลขที่บทความจากระบบ OJS), เดือนฉบับที่ตีพิมพ์ ปี พ.ศ.
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

Examples References

Periodicals
Basic Format:
[1] J. K. Author, “Name of paper,” Title of Periodical,vol. x, no. x, pp. xx–xx, Abbrev. Month, year.

Examples:
[2] P. Liang, B. Dong, X. Yu, D. Yu, Z. Cheng, L. Su, J. Peng, Q. Nan, and H. Wang, “Computer aided dynamic simulation of microwave induced thermal distribution in coagulation of liver cancer,” IEEE Transaction on Biomedical Engineering, vol. 48, no. 7, pp. 821–829, July 2001.

[3] E. H. Miller, “A note on reflector arrays,” IEEE Transation on Antennas Propagation., to be published.

[4] P. Tantiwattanakul and A. Kengpol, “Scrap cost forecasting in hard disk drive industry,” The Journal of KMUTNB, vol. 23, no. 1, pp. 148–156, 2013 (in Thai).

 

Books
Basic Format:
[5] J. K. Author, “Title of chapter in the book,” in Title of His Published Book, xth ed. City of Publisher, Country if not USA: of Publisher, year, ch. x, sec. x, pp. xxx–xxx.

Examples:
[6] S. Sirisukpaiboon, Techniques and Methods of Vocational Teaching. Bangkok: KMUTNB Textbook Publishing Center, 2011 (in Thai).

[7] W.-K. Chen, Linear Networks and Systems, Belmont, CA: Wadsworth, 1993, pp. 123–135.

 

Reports:
Basic Format:
[8] J. K. Author, “Title of report,” Abbrev. Name of Co., City of Co., Abbrev. State, Rep. xxx, year.

Examples:
[9] E. E. Reber, R. L. Mitchell, and C. J. Carter, “Oxygen absorption in the Earth’s atmosphere,” Aerospace Corporation, Los Angeles, CA, Tech. Rep. TR-0200 (4230-46)-3, Nov. 1968.

 

Handbooks
Basic Format:
[10] Name of Manual/Handbook, x ed., Abbrev. Name of Co., City of Co., Abbrev. State, year, pp. xx-xx.

Examples:
[11] Transmission Systems for Communications, 3rd ed., Western Electric Co., Winston-Salem, NC, 1985, pp. 44–60.

 

Published Conference Proceedings:
Basic Format:
[12] J. K. Author, “Title of paper,” in Unabbreviated Name of Conf., City of Conf., Abbrev. State (if given), year, pp. xxx-xxx.

Example:
[13] D. B. Payne and J. R. Stern, “Wavelength-switched passively coupled single-mode optical network,” in Proceedings IOOC-ECOC, 1985, pp.585−590.

 

Papers Presented at Conferences (unpublished) :
Basic Format:
[14] J. K. Author, “Title of paper,” presented at the Unabbrev. Name of Conf., City of Conf., Abbrev. State, year.

Example:
[15] D. Ebehard and E. Voges, “Digital single sideband detection for interferometric sensors,” presented at the 2nd International Conference on Optical Fibre Sensors, Stuttgart, Germany, Jan. 2–5, 1984.

 

Patents:
Basic Format:
[16] J. K. Author, “Title of patent,” U.S. Patent x xxx xxx, Abbrev. Month, day, year.

Example:
[17] G. Brandli and M.Dick, “Alternating Current fed power supply,” U.S. Patent 4 084 217, Nov. 4, 1978.

 

Standards
Basic Format:
[18] Title of Standard, Standard number, date.

Examples:
[19] IEEE Criteria for Class IE Electric Systems, IEEE Standard 308, 1969.

 

Theses (M.S.) and Dissertations (Ph.D.)
Basic Format:
[20] J. K. Author, “Title of thesis,” M.S. thesis, Abbrev. Dept., Abbrev. Univ., City of Univ., Abbrev. State, year.

[21] J. K. Author, “Title of dissertation,” Ph.D. dissertation, Abbrev. Dept., Abbrev. Univ., City of Univ., Abbrev. State, year.

Examples:
[22] S. Sungsisri, “The development an information system for knowledge managememt of intelligence of locality. case study of floating- basket fishery in the sakaekrang river,” M.S. thesis, Department of Computer Education, Faculty of Technical Education King Mongkut’s University of Technology North Bangkok, 2010 (in Thai).

[23] J. O. Williams, “Narrow-band analyzer,” Ph.D. dissertation, Department of Electrical Engineering, Harvard University, Cambridge, MA, 1993.

 

References—Electronic Sources

Books, Monographs :
Basic Format:
[24] J. K. Author. (year, month day). Title. (edition) [Type of medium]. volume (issue). Available: site/path/file
Examples:
[25] J. Jones. (1991, May 10). Networks. (2nd ed.) [Online]. Available: http://www.atm.com

 

Periodicals:
Basic Format:
[26] J. K. Author. (year, month). Title. Journal. [Type of medium]. volume (issue). pages. Available: site/path/file

Examples:
[27] R. J. Vidmar. (1992, Aug.). On the use of atmospheric plasmas as electromagnetic reflectore. IEEE Transactions on Plasma Science. [Online]. 21(3), pp. 876−880. Available: http://www.halcyon.com/pub/journals/21ps03-vidmar

 

Papers Presented at Conferences :
Basic Format:
[28] J. K. Author. Title. Presented at Conferences title. [Type of medium]. Available: site/path/file

Examples:
[29] PROCESS Corp., MA. Intranets: Internet technologies deployed behind the firewall for corporate productivity. Presented at INET96 Annu. Meeting. [Online]. Available: http://home. process.com/Intranets/wp2.htp

 

Reports and Handbooks :
Basic Format:
[30] J. K. Author. (year, month). Title. Company. City, State or Country. [Type of medium]. Available: site/path/file

Examples:
[31] S. L. Talleen. (1996, Apr.). The Intranet Architecture: Managing information in the new paradigm. Amdahl Corp., CA. [Online]. Available: http://www.amdahl.com/doc/products/bsg/intra/infra/html

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------