ประเมินผลโครงการการพยาบาลวิถีพุทธเพื่อส่งเสริมการดูแลสุขภาพพึ่งตนของผู้สูงอายุที่มีภาวะความดันโลหิตสูง หมู่2 บ้านสารวัน อำเภอไม้แก่น จังหวัดปัตตานี

Main Article Content

สุมล เลี่ยมทอง
จีรศักดิ์ หน่อจันทร์
ซาลีนา กอเสง
ศิริพันธุ์ ศิริพันธุ์

Abstract

การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินผลด้านบริบท ด้านปัจจัยนำเข้า ด้านกระบวนการดำเนินงานและด้านผลผลิต ของโครงการการพยาบาลวิถีพุทธ เพื่อส่งเสริมการดูแลสุขภาพพึ่งตนของผู้สูงอายุ หมู่ 2 บ้านสารวัน อำเภอไม้แก่น
จังหวัดปัตตานี กลุ่มตัวอย่างคือ ผู้ป่วยความดันโลหิตสูงที่เป็นสมาชิกชมรมผู้สูงอายุ หมู่ 2 บ้านสารวัน จำนวน 30 คนและผู้ให้บริการที่เป็นเครือข่าย เป็นผู้ให้ข้อมูลหลัก จำนวน 3 คน เครื่องมือที่ใช้เก็บข้อมูลคือ แบบสอบถามประเมินโครงการ ที่ผู้
วิจัยสร้างขึ้น หาค่าความเชื่อมั่นสัมประสิทธิ์แอลฟาของครอนบาคได้เท่ากับ 0.83 และแบบสัมภาษณ์ผู้รับบริการ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัย พบว่า 1.) ด้านบริบท โดยภาพรวม ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก (x= 3.87, S.D. = 0.53) ส่วนรายข้อ พบว่า มีการใช้หลักพุทธธรรมในการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม เช่น สวดมนต์ สมาธิ สนทนาธรรม และศีล มีค่าเฉลี่ยสูงสุด (x=
4.17, S.D. = 0.65) 2.) ด้านปัจจัยนำเข้า โดยภาพรวม ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับปานกลาง (x= 2.60, S.D. = 0.57) ส่วนรายข้อพบว่าได้รับงบประมาณสนับสนุนจากชุมชน บุคลากร หรือหน่วยงานเอกชน มีค่าเฉลี่ยสูงสุด (x= 2.87, S.D.= 0.73) 3.) ด้าน
กระบวนการ โดยภาพรวม ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก (x= -3.62, S.D. = 0.32) ส่วนรายข้อ พบว่าการบูรณาการหลักพุทธธรรมในการแก้ไขปัญหาสุขภาพของตนเอง การสรุปผลการดำเนินงาน มีหลักฐานเชิงประจักษ์มีค่าเฉลี่ยสูงสุด (x= 4.07, S.D. =
0.69 และ x= 4.07, S.D. = 0.36) ตามลำดับ 4.) ด้านผลผลิต โดยภาพรวม ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก (x= 3.79, S.D.= 0.26) ส่วนรายข้อ พบว่ามีที่ปลูกผักสวนครัว สมุนไพรปลอดสารพิษในครัวเรือน ในชุมชน มีค่าเฉลี่ยสูงสุด (x= 4.53, S.D.= 0.68)

Article Details

How to Cite
เลี่ยมทอง ส., หน่อจันทร์ จ., กอเสง ซ., & ศิริพันธุ์ ศ. (2016). ประเมินผลโครงการการพยาบาลวิถีพุทธเพื่อส่งเสริมการดูแลสุขภาพพึ่งตนของผู้สูงอายุที่มีภาวะความดันโลหิตสูง หมู่2 บ้านสารวัน อำเภอไม้แก่น จังหวัดปัตตานี. Princess of Naradhiwas University Journal of Humanities and Social Sciences, 3(2), 58–72. Retrieved from https://so05.tci-thaijo.org/index.php/pnuhuso/article/view/61721
Section
Research Article