การมีส่วนร่วมของประชาชนในการอนุรักษ์และพัฒนาเพลงพื้นบ้าน เพื่อการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมจังหวัดนครสวรรค์

Authors

  • ภิญโญ ภู่เทศ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์

Keywords:

เพลงพื้นบ้าน, การอนุรักษ์และพัฒนา, การมีส่วนร่วมของชุมชน

Abstract

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษากระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนในการอนุรักษ์และพัฒนาเพลงพื้นบ้านเพื่อการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมจังหวัดนครสวรรค์และเพื่อวิเคราะห์ทำนองและจัดทำเป็นโน้ตสากลประกอบคำร้อง ผู้วิจัยใช้กระบวนการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม กลุ่มตัวอย่างในการวิจัยเป็นพ่อเพลงแม่เพลงและเยาวชน ผลการศึกษาพบว่า กลุ่มเด็กนักเรียนประถมศึกษากลุ่มนักศึกษา และกลุ่มเยาวชนมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์และพัฒนาเพลงพื้นบ้าน เห็นคุณค่าของเพลงพื้นบ้าน และสามารถเชื่อมโยงระหว่างเพลงพื้นบ้านกับการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม โดยได้รับการถ่ายทอดเทคนิคการตีกลองยาวและการร้องเพลงพื้นบ้านด้วยการสาธิต การสอน โดยตรงจากปราชญ์ชาวบ้าน การวิเคราะห์ทำนองเพลงพื้นบ้าน พบว่าลักษณะการเคลื่อนที่ของทำนองเพลงพื้นบ้านจังหวัดนครสวรรค์ส่วนมาก เป็นการเคลื่อนที่แบบสม่ำเสมอ นุ่มนวล ระดับของเสียงที่ใช้ในบทเพลงจะค่อยๆสูงขึ้น และค่อยๆ ต่ำลง บางครั้งลักษณะของทำนองมีการซ้ำเสียงกันอยู่บ้าง ทุกเพลงของเพลงพื้นบ้านจะใช้อัตราความเร็วของจังหวะเคาะที่สม่ำเสมอโดยประมาณ 70 ครั้งต่อ 1 นาที การตีรำมะนาประกอบจังหวะเพลงพื้นบ้านจะใช้หน้าทับในการตีเหมือนกันทุกเพลงจึงทำให้ลักษณะของทำนองไม่กระโดด ลักษณะของการร้องเพลงนั้นจะไม่เน้นหนักของน้ำเสียงในเพลงพื้นบ้าน การใช้ขั้นคู่ในการเคลื่อนที่ของทำนองเพลง มีดังนี้ คือ ขั้นคู่ 2 เมเจอร์ ขั้นคู่ 3 ไมเนอร์ ขั้นคู่ 4 เพอร์เฟกต์  ขั้นคู่ 5 เพอร์เฟกต์  ขั้นคู่ 6 ไมเนอร์ และการซ้ำเสียง เป็นต้น ในแต่ละเพลงจะมีประโยคเพลงไม่เกิน 3 ประโยค แต่ละประโยคจะมีวรรคเพลงไม่เกิน 3 วรรค ทั้งนี้ในแต่ละประโยคจะมีวรรคถามและวรรคตอบอยู่ในตัวเองโดยสมบูรณ์

Downloads

How to Cite

ภู่เทศ ภ. (2016). การมีส่วนร่วมของประชาชนในการอนุรักษ์และพัฒนาเพลงพื้นบ้าน เพื่อการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมจังหวัดนครสวรรค์. Life Sciences and Environment Journal, 16(2), 211–219. Retrieved from https://ph01.tci-thaijo.org/index.php/psru/article/view/56660

Issue

Section

บทความวิจัย(มนุษย์ฯ)