เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน เพื่อส่งบทความ

ในขั้นตอนการส่งบทความ ผู้แต่งต้องตรวจสอบและปฏิบัติตามข้อกำหนดรายการตรวจสอบการส่งทุกข้อ ดังต่อไปนี้ และบทความอาจถูกส่งคืนให้กับผู้แต่งกรณีที่ไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดทั้งหมด

  • บทความที่ได้รับการตีพิมพ์ต้องไม่เคยตีพิมพ์เผยแพร่ที่ใดมาก่อนและต้องอยู่ในกระบวนการพิจารณาตีพิมพ์ในวารสารหรือสิ่งตีพิมพ์อื่นใด มีความน่าสนใจ ไม่ล้าสมัย และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้
  • ผู้วิจัย/ผู้เขียนบทความวิจัย ประกอบด้วย บุคคล คณะบุคคล หรือทีมสหสาขาวิชาชีพทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้แก่ อาหาร วิทยาศาสตร์การแพทย์และสุขภาพ วิทยาศาสตร์ธรรมชาติ เกษตรศาสตร์ วิทยาศาสตร์ประยุกต์ วิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม และเทคโนโลยีสารสนเทศ รวมไปถึงประสบการณ์ในการวิจัยระหว่างสถาบัน
  • ผู้ส่งบทความวิจัยต้องชำระค่าธรรมเนียมบำรุงวารสารวิจัยและพัฒนา วไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์
    บทความภาษาไทย บทความละ 4,500 บาท และบทความภาษาอังกฤษ บทความละ 6,000 บาท
  • ผู้วิจัย / ผู้เขียน ส่งต้นฉบับ ความยาวทั้งหมดไม่เกิน 15 หน้า โดยพิมพ์ในกระดาษ B5 และส่งไฟล์บทความ หรือ ภาพถ่ายประกอบที่ชัดเจน (ถ้ามี) ผ่านระบบออนไลน์ โดยปฏิบัติตามคำแนะนำการเขียนของวารสาร
  • การทำงานผ่านระบบวารสารออนไลน์ ทางวารสารจะติดต่อและแจ้งข้อความต่าง ๆ ผ่านอีเมลของท่านที่ได้กรอกเข้าสู่ระบบเป็นหลัก เพื่อให้เข้ามารับ-ส่ง ข้อมูลผ่านระบบเว็บไซต์วารสารฯ ดังนั้นขอให้ตรวจสอบกล่องจดหมายของท่านว่าได้รับอีเมลของวารสารฯหรือไม่ และหากไม่ได้รับอีเมลใด ๆ หลังจากส่งบทความนี้ (บางครั้งอาจตกอยู่ใน spam mail) กรุณาติดต่อที่ [email protected]
  • กรุณาให้ชื่อและหมายเลขโทรศัพท์มือถือของท่านไว้ใน ข้อความถึงบรรณาธิการ (Comment for Editor) และกดบันทึก รวมถึงหากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามได้ในช่องทางดังกล่าว

                                                               คำแนะนำการเขียนและส่งต้นฉบับ

          วารสารวิจัยและพัฒนา วไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ สาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

1. การเตรียมต้นฉบับ ต้นฉบับบทความวิจัยต้องจัดทำสำหรับกระดาษขนาด B5(JIS) (18.2 ซม. X 25.7 ซม.) ความยาว 15 หน้ากระดาษ ตามรูปแบบวารสารวิจัยและพัฒนา วไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ พิมพ์โดยใช้โปรแกรม Microsoft Word เวอร์ชัน 2007 ขึ้นไป

2. การตั้งค่าหน้ากระดาษ ระยะขอบกระดาษด้านบน (Top Margin) 2.54 เซนติเมตร ด้านซ้าย (Left Margin) ด้านขวา (Right Margin) และด้านล่าง (Bottom Margin) 2 เซนติเมตร   

3. รูปแบบตัวอักษร ใช้ TH SarabunPSK เท่านั้น ชื่อหัวข้อพิมพ์เป็นตัวหน้า ขนาด 14 Point จัดชิดซ้ายหน้ากระดาษ และเนื้อหาพิมพ์เป็นตัวปกติ ขนาด 14 Point จัดกระจายหน้ากระดาษ

4. องค์ประกอบบทความวิจัยประกอบด้วย

     4.1 ชื่อเรื่อง มีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ มีความยาวไม่เกินภาษาละ 2 บรรทัด สามารถอธิบายสาระของเรื่องได้ดีรูปแบบตัวอักษร TH SarabunPSK ตัวหนา ขนาด 14 Point จัดกึ่งกลางหน้ากระดาษ

    4.2 ชื่อผู้นิพนธ์บทความ มีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ใช้ชื่อเต็มไม่ต้องระบุคำนำหน้าชื่อ ใส่เครื่องหมายเชิงอรรถเป็นตัวเลขยกไว้ท้ายนามสกุลเรียงลำดับตามจำนวนผู้นิพนธ์บทความและใส่เครื่องหมายดอกจัน (*) ไว้บนเลขยกเพื่อแสดงว่าเป็นผู้นิพนธ์หลัก รูปแบบตัวอักษร TH SarabunPSK ตัวหนา ขนาด 14 Point จัดกึ่งกลางหน้ากระดาษ โดยใส่รายละเอียดที่อยู่ผู้นิพนธ์บทความและอีเมลผู้นิพนธ์หลักในเชิงอรรถ

    4.3 ที่อยู่ผู้นิพนธ์บทความ ใส่รายละเอียดในเชิงอรรถข้อความที่เขียนไว้ส่วนล่างของหน้ากระดาษและมีเส้นคั่นระหว่างเชิงอรรถกับตัวบทคัดย่อ (Abstract) อย่างชัดเจน โดยขีดเส้นคั่นจากริมกระดาษด้านซ้าย ไปทางด้านขวาประมาณ 1 นิ้ว หรือ 7 ตัวอักษร ใส่ตัวเลขกำกับไว้เหนือตัวอักษรตัวแรกเล็กน้อย ตัวเลขต้องตรงกับตัวเลขที่กำกับไว้กับชื่อผู้นิพนธ์บทความ ให้ระบุตำแหน่งทางวิชาการ (ถ้ามี)  สถานที่ทำงาน หน่วยงานหรือสถาบัน และอีเมล์แอดเดรส (E-mail Address) ของผู้นิพนธ์บทความทุกท่าน เช่น นักศึกษาระดับ.... สาขา.... คณะ ..... มหาวิทยาลัย.... อีเมล์.... หรือ อาจารย์.... สาขา..... คณะ..... มหาวิทยาลัย.... อีเมล.... หรือ ตำแหน่ง... บริษัท... ที่อยู่... อีเมล์... รูปแบบตัวอักษร TH SarabunPSK ตัวปกติ ขนาด 12 Point จัดชิดซ้ายหน้ากระดาษ

    4.4 บทคัดย่อ(Abstract) ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษความยาวไม่เกิน 15 บรรทัด หรือ 350 คำ โดยใช้สำนวนให้กระชับ ชัดเจนที่สุด รูปแบบตัวอักษร TH SarabunPSK ตัวปกติ ขนาด 14 Point จัดกระจายหน้ากระดาษ

    4.5 คำสำคัญ(Keyword) ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษอยู่ใต้บทคัดย่อ(Abstract)  คำสำคัญภาษาไทย จำนวน 3 – 5 คำเรียงตามลำดับอักษรระหว่างคำวรรค 2 วรรค  ส่วน Keyword หรือคำสำคัญภาษาอังกฤษให้เรียงตามคำสำคัญภาษาไทยคั่นระหว่างคำด้วยจุลภาค (,)

    4.6 เนื้อหาของบทความวิจัย ประกอบด้วยหัวข้อต่อไปนี้

          4.6.1 บทนำ  เป็นส่วนของเนื้อหาที่บอกความเป็นมา และเหตุผลนำไปสู่การศึกษาวิจัย

          4.6.2 วัตถุประสงค์ของการวิจัย  ให้ชี้แจงถึงจุดมุ่งหมายของการวิจัย

          4.6.3 วิธีดำเนินการวิจัย  ควรอธิบายวิธีดำเนินการวิจัย โดยกล่าวถึงวิธีการสุ่มกลุ่มตัวอย่าง ที่มาของกลุ่มตัวอย่างแหล่งที่มาของข้อมูล การเก็บและรวบรวมข้อมูล การใช้เครื่องมือ สถิติที่ใช้ในการวิจัยและการวิเคราะห์ข้อมูล

          4.6.4 ผลการวิจัยและอภิปรายผล เป็นการเสนอสิ่งที่ได้จากการวิจัยเป็นลำดับอาจแสดงด้วยตารางกราฟ แผนภาพประกอบการอธิบาย ทั้งนี้ถ้าแสดงด้วยตาราง ควรเป็นตารางแบบไม่มีเส้นขอบตารางด้านซ้ายและขวา หัวตารางแบบธรรมดาไม่มีสี ตารางควรมีเฉพาะที่จำเป็นไม่ควรเกิน 5 ตาราง สำหรับรูปภาพประกอบควรเป็นรูปภาพขาว-ดำ ที่ชัดเจนและมีคำบรรยายใต้รูป จัดกึ่งกลางหน้ากระดาษ กรณีที่จำเป็นอาจใช้ภาพสีได้

          4.6.5 สรุป เป็นการสรุปผลที่ได้จากการวิจัยและควรมีการอภิปรายผลการวิจัยว่าเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้หรือไม่เพียงใด และควรอ้างทฤษฎีหรือเปรียบเทียบการทดลองของผู้อื่นที่เกี่ยวข้องประกอบเพื่อให้ผู้อ่านเห็นด้วยตามหลักการหรือคัดค้านทฤษฎีที่มีอยู่เดิม รวมทั้งแสดงให้เห็นถึงการนำผลไปใช้ประโยชน์ และการให้ข้อเสนอแนะสำหรับการวิจัยในอนาคต

          4.6.6 ข้อเสนอแนะ  ควรมี 2 ส่วน คือ ข้อเสนอในการนำผลการวิจัยไปใช้ และข้อเสนอแนะในการทำวิจัยครั้งต่อไป

          4.6.7 กิตติกรรมประกาศ (ถ้ามี)  ข้อความแสดงความขอบคุณผู้มีส่วนสนับสนุน ช่วยเหลือ และให้ความร่วมมือในการทำงานวิจัย รวมถึงแหล่งทุนสนับสนุนต่างๆ

          4.6.8 เอกสารอ้างอิงและการอ้างอิง การเขียนเอกสารอ้างอิงและการอ้างอิง ใช้ระบบ APA (American Psychological Association) ให้เรียงลำดับชื่อผู้แต่งหรือผู้รายงานตามลำดับอักษรเริ่มด้วยเอกสารภาษาไทยก่อน แล้วต่อด้วยเอกสารภาษาต่างประเทศ

     4.7   การเขียนเอกสารอ้างอิงและการอ้างในระบบ APA (American Psychological Association)

  • ชื่อวารสาร ชื่อหนังสือ และปีที่ (Volume) ไม่ใช้ชื่อย่อ
  • ชื่อภาษาอังกฤษ เขียนชื่อผู้แต่งโดยขึ้นต้นด้วย Last name ตามด้วยจุลภาค (,) และชื่อย่อตามด้วยมหัพภาค (.)
  • ชื่อไทย เขียนชื่อผู้แต่งโดยขึ้นต้นด้วยชื่อตัว ตามด้วยนามสกุล
  • กรณีผู้แต่งมากกว่าหนึ่งคน ให้เขียนชื่อผู้แต่งทั้งหมดทุกคน คั่นระหว่างชื่อด้วยจุลภาค (,) และมีคำว่า “and” หรือ “&” ในกรณีชื่อภาษาอังกฤษ หรือ “และ” ในกรณีชื่อภาษาไทยก่อนชื่อสุดท้าย
  • ถ้าไม่มีชื่อผู้แต่ง ให้ขึ้นต้นด้วยชื่อเรื่อง หรือชื่อวารสาร หรือชื่อหนังสือ ตามด้วยปีที่พิมพ์
  • ถ้าผู้แต่งเป็นหน่วยงาน หรือองค์กร ให้ใช้ชื่อหน่วยงานหรือองค์กรแทนชื่อผู้แต่ง
  • เรียงลำดับรายการตามตัวอักษรชื่อผู้แต่ง รายการที่มีทั้งเอกสารภาษาไทยและอังกฤษ ให้นำข้อมูลภาษาไทยขึ้นก่อนตามด้วยข้อมูลภาษาอังกฤษ พิมพ์โดยใช้ระยะห่างระหว่างบรรทัด อย่างน้อย (At least) 12 Point
  • บรรทัดที่สองและบรรทัดต่อๆ ไปของแต่ละรายการให้ย่อหน้าเข้ามา 7 ตัวอักษร หรือ 1.25 เซ็นติเมตร
  • การอ้าง – อ้างโดย(ชื่อผู้แต่ง, ปีที่พิมพ์)
  • ไม่อ้างโดยใช้คำว่า “และคณะ” หรือ “และคนอื่นๆ” หรือ et al. ยกเว้นกรณีอ้างในเนื้อเรื่องที่มีผู้แต่งตั้งแต่สามคนขึ้นไปและหลังจากได้มีการอ้างครั้งแรกไว้ก่อนหน้านั้นแล้ว หรือการอ้างที่มีผู้แต่งตั้งแต่หกคนขึ้นไป
  • การอ้างจากวารสารและนิตยสารให้ระบุหน้าแรกถึงหน้าสุดท้าย โดยไม่ใช้คำย่อ “p.” หรือ “pp.” นอกจากหนังสือ
  • การติดต่อส่วนตัวโดยสื่อใดๆ ก็ตาม สามารถอ้างอิงได้ในเนื้อเรื่อง แต่ต้องไม่มีการระบุไว้ในรายการเอกสารอ้างอิง เพราะผู้อื่นไม่สามารถติดตามข้อมูลเหล่านี้ได้
  • การอ้างอิงจาก Website ให้ระบุวัน เดือน ปีที่พิมพ์ ถ้าไม่ปรากฏให้อ้างวันที่ทำการสืบค้น และระบุ URL ให้ชัดเจน ถูกต้อง เมื่อจบ URL address ห้ามใส่จุด (.) ข้างท้าย
  • Website ไม่บอกวันที่ ให้ระบุ n.d.
  • หลัง มหัพภาค “.” (period) เว้น 2  วรรค
  • หลัง จุลภาค “,” (comma) เว้น 1 วรรค
  • หลัง อัฒภาค “;” (semicolon) เว้น 1  วรรค
  • หลัง ทวิภาค “:” (colons) เว้น  1  วรรค
  • รูปแบบและตัวอย่างการอ้างอิงจากสิ่งพิมพ์ต่าง ๆ

1. หนังสือหรือตำรา

รูปแบบ:              ชื่อผู้แต่ง. //(ปีที่พิมพ์).//ชื่อหนังสือ./ครั้งที่พิมพ์(ถ้ามี). //เมืองที่พิมพ์: /สำนักพิมพ์.

ตัวอย่างเช่น        ไพรัช ธัชยพงษ์, และกฤษณะ ช่างกล่อม.  (2541).  งานพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสารสนเทศแห่งชาติ

                                               เพื่อการศึกษา.  กรุงเทพฯ: แพร่พิทยา.

                        Mitchell, T.  R., & Larson, J.  R., Jr.  (1987).  People in organizations: An introduction to

                                               organizational behavior (3rd ed.).  New York: McGraw-Hill.

 

2. หนังสือหรือตำราที่มีบรรณาธิการ

รูปแบบ:              ชื่อบรรณาธิการ(ผู้รวบรวม).//(ปีที่พิมพ์).//ชื่อหนังสือ.//เมืองที่พิมพ์:/สำนักพิมพ์.

ตัวอย่างเช่น         อดุลย์ วิริยเวชกุล, (บก.).  (2541).  คู่มือจัดการเรียนการสอนระดับบัณฑิตศึกษา.  นครปฐม: 

                                               บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล.

                        Gibbs, J. T., & Huang, L. N. (Eds.). (1991). Children of color: Psychological   

                                               interventions with minority youth. San Francisco: Jossey-Bass.

3. วิทยานิพนธ์

รูปแบบ:              ชื่อผู้แต่ง.//(ปีที่พิมพ์).//ชื่อวิทยานิพนธ์.//ระดับวิทยานิพนธ์,/มหาวิทยาลัย.

ตัวอย่างเช่น         พรพิมล เฉลิมพลานุภาพ.  (2535).  พฤติพรรมการแสวงหาข่าวสารและการใช้เทคโนโลยีการ

                                              สื่อสารของบริษัทธุรกิจเอกชนที่มียอดขายสูงสุดของประเทศไทย. วิทยานิพนธ์วารสารศาสตร

                                               มหาบัณฑิต คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

                        Almeida, D.M. (1990). Fathers’ participation in family work: Consequences for

                                              fathers’ stress and father-child relations. Unpublished master’s thesis, University of

                                               Victoria, Victoria British Columbia, Canada.

4. รายงานการประชุมหรือสัมมนาทางวิชาการ

รูปแบบ:              ชื่อผู้แต่ง.//ปีที่พิมพ์.//ชื่อเรื่อง.//ชื่อเอกสารรวมเรื่องรายงานการประชุม,/วัน เดือน ปี สถานที่จัด. 

                                              เมืองที่พิมพ์:/สานักพิมพ์.

ตัวอย่างเช่น         กรมวิชาการ.  2538.  การจัดกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน.  การประชุมปฏิบัติการรณรงค์เพื่อ

                                             ส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน, 25-29 พฤศจิกายน 2528 ณ วิทยาลัยครูมหาสารคาม

                                             จังหวัดมหาสารคาม.  กรุงเทพฯ: ศูนย์พัฒนาหนังสือ กรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ.

                        Deci, E. L., & Ryan, R. M. (1991). A motivational approach to self:

                                               Integration in personality. In R. Dienstbier (Ed.), Nebraska Symposium on                                                                   Motivation: Vol. 38. Perspectives on Motivation (pp. 237-288). Lincoln:
                                               University of Nebraska Press. Motivation: Vol. 38. Perspectives on
                                               Motivation (pp. 237-288). Lincoln: University of Nebraska Press.

5. พจนานุกรม

ตัวอย่างเช่น     พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542. (2546). กรุงเทพฯ: นานมีบุ๊คพับลิ เคชัน.

                      Shorter Oxford English dictionary (5 th ed.). (2002). New York: Oxford   

                                             University Press.

6. วารสาร/นิตยสาร

รูปแบบ:              ชื่อผู้แต่ง.//(ปีที่พิมพ์).//ชื่อเรื่อง.//ชื่อวารสารหรือนิตยสาร,/ปีที่ (ฉบับที่),/หน้าแรก–หน้าสุดท้าย.

ตัวอย่างเช่น         ชำนิ  กิ่งแก้ว, และอุษา  คะเณ. (2551). การศึกษาการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตโดยการลด
                                               ความสูญเปล่าในกระบวนการผลิตแอลกอฮอล์.  วารสารเทคโนโลยีภาคใต้, 1(2), 27-35.

                        Klimoski, R., & Palmer, S. (1993). The ADA and the hiring process in
                                               organizations.  Consulting Psychology Journal: Practice and Research,
                                               45(2), 10-36.

7. บทความจากหนังสือพิมพ์

รูปแบบ:              ชื่อผู้แต่ง.//(ปีที่พิมพ์, เดือน, วันที่).//ชื่อเรื่อง.//ชื่อหนังสือพิมพ์,/หน้าที่นามาอ้าง.

ตัวอย่างเช่น       สายใจ ดวงมาลี. (2548, มิถุนายน 7) มาลาเรียลาม3จว.ใต้ตอนบน สธ.เร่งคุมเข้มกันเชื้อแพร่หนัก.
                                                คม-ชัด-ลึก, 25.

                        Di Rado, A. (1995, March 15). Trekking through college: Classes explore
                                               modern society using the world of Star Trek. Los Angeles Time, p. A3.

8. สื่ออิเล็กทรอนิกส์

รูปแบบ:             ชื่อผู้แต่ง.//(ปีที่พิมพ์).//ชื่อเรื่อง.//สืบค้นจาก//URL
                                               Author, A. A. (Year).  Title of post.  Retrieved from URL

ตัวอย่างเช่น       สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม.  (2545).  ประเพณีใส่
                                              กระจาดชาวไทยพวนสอนให้รู้จักแบ่งปัน มีน้ำใจ
.  สืบค้นจาก 
                                               http://www.m-culture.go.th/culture01/highlight/highlightdetail.php?

                                               highlight_id=114&lang=th

                        Lynch, T. (1996). DS9 trials and tribble-ations review.  Retrieved from
                                               http://www.bradley.edu/psiphi/ DS9/ep/503r.html