การประเมินผลสมรรถนะการบริหารจัดการระบบสุขภาพอำเภอ ของศูนย์ประสานงานและจัดการเรียนรู้ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สระบุรี
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ ประเมินสมรรถนะการบริหารจัดการระบบสุขภาพอำเภอของทีมผู้เรียน ในโครงการเสริมสมรรถนะการบริหารจัดการระบบสุขภาพอำเภอ ของศูนย์ประสานงานและจัดการเรียนรู้ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สระบุรี โดยการจัดการเรียนเน้นการปฏิบัติโดยใช้บริบทเป็นฐาน และกระบวนการร่วมคิด ร่วมทำและร่วมเรียนรู้ ซึ่งเป็นลักษณะของการเรียนรู้แบบผู้ใหญ่ ที่ให้ความสำคัญกับการเรียนเป็นทีม การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างทีมและกับผู้รู้ในพื้นที่ คาดหวังการมีสมรรถนะทางด้านการบริหารจัดการระบบสุขภาพอำเภอ 6 สมรรถนะหลัก ได้แก่ การควบคุมตนเอง การมีวิสัยทัศน์ การวางแผน การนำการเปลี่ยนแปลง การทำงานเป็นทีม และการใช้เครื่องมือการบริหารจัดการ กับ 4 สมรรถนะเงา คือ คุณค่า ความสัมพันธ์ การสื่อสาร และอำนาจ อันจะเกิดประโยชน์ต่อประสิทธิภาพและประสิทธิผลของระบบการทำงานสุขภาพในระดับอำเภอ ศึกษาทีมพัฒนาระบบสุขภาพอำเภอและพี่เลี้ยง ในเขตบริการสุขภาพที่ 4 จำนวน 6 ทีมสุขภาพ ได้แก่ อำเภอมวกเหล็ก อำเภอแก่งคอย อำเภอเมืองนครนายก อำเภอเมืองปทุมธานี อำเภอคลองหลวง และมิตรไมตรีคลินิกเวชกรรม รวม 57 คน คัดเลือกตัวอย่างโดยการคัดเลือกตามคุณสมบัติ ของคณะทำงานพัฒนาระบบสุขภาพระดับอำเภอ เก็บรวบรวมข้อมูลเชิงปริมาณโดยใช้แบบประเมินตนเองด้านสมรรถนะการบริหารจัดการระบบสุขภาพอำเภอ และข้อมูลเชิงคุณภาพโดยการสนทนากลุ่ม วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณโดยการหา จำนวน ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน พบว่า สมรรถนะบริหารจัดการระบบสุขภาพอำเภอ ก่อนการเข้าอบรม ทีมเรียนมีคะแนนเฉลี่ยอยู่ในระดับปานกลาง เท่ากับ 3.64 คะแนน (SD=.48) หลังการเข้าอบรม ทีมผู้เรียนมีคะแนนเฉลี่ยยู่ในระดับสูง เท่ากับ 4.21 คะแนน (SD=.34) ข้อมูลเชิงคุณภาพพบว่า ความคาดหวังของทีมผู้เรียน คือการได้รับความรู้ ในการพัฒนาผู้ป่วย มีช่องทางช่วยเหลือในการจัดการทีมสุขภาพอำเภอ ให้ได้รับการพัฒนาศักยภาพ มีกระบวนการคืนข้อมูล มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่ต่อเนื่อง ได้รูปแบบที่เหมาะสมที่ผลกระทบถึงชุมชนที่แท้จริง และการมีพี่เลี้ยงการจัดทำวิจัย R2R
สรุปได้ว่าโครงการอบรมเสริมสมรรถนะการบริหารจัดการระบบสุขภาพอำเภอของศูนย์การเรียนรู้ วิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี สระบุรี ประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี ควรพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
Article Details
บทความและรายงานวิจัยในวารสารพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข เป็นความคิดเห็นของ ผู้เขียน มิใช่ของคณะผู้จัดทำ และมิใช่ความรับผิดชอบของสมาคมศิษย์เก่าพยาบาลกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งสามารถนำไปอ้างอิงได้
References
2. Tyler RW. Evaluation acting program. Boston Allin and Bacon;1986.
3. Pongsupab Y. District Health System Management Learning: DHML. National Health Security Office, APPA Printing GroupCO., LTD.;2014.
4. Kemmis S, McTaggart R, Rhonda N, The Action Research Planner: Doing Critical Participatory Action Research. New York: Springer ; 2014.
5. Best, JW. Research in Education. 3rd. ed., Englewood Cliffs, New Jersey, Prentive-Hall, Inc.;1997.
6. Elo S, Kyngas H. The qualitative content analysis process. Journal of advance Nursing;2007, 62(1), 107-115.
7. World Health Organization. Everybody’s business; Strengthening health system to improve health outcome: Geniva;2007.
8. Kongchan A. Human Resource Management, Bangkok SE-ED; 2014. (In Thai).
9. Promsakanasakolnakorn P, District Health Management Learning: Roles and Perspectives of Academic Institutions (AI). Nursing Journal of the Ministry of Public Health; 2016, V.3(32-33). (In Thai).
10. Boonyapaisarncharoen T. Summary of Learning District Health System Management Learning (DHML) Project.Copy; 2015. (In Thai).
11. Archananuparp S. Speech in close meeting Core Team Committee in District Health System Management Learning (DHML) Project; 2016. [cited 2015 December 3]. Available from https://www.facebook.com/ asurakiat?fref=ts(In Thai).